การทำขวัญนาค คือ
การทำขวัญนาค
ประวัติ เริ่มทำขวัญนาค ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ฝึกหัดโดย นายชื้น แป้นแจ้ง อดีตเป็นหมอทำขวัญนาค นายประทวน สวนคีรี เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวัดทวิชาตาราม (วัดปากคลองกุ่ม)
สาระของการประกอบพิธีทำขวัญนาคส่วนใหญ่จะเป็นการสอนนาคถึงบุญคุณบิดามารดาการเตรียมตัวเป็นสาวกที่ดีของพระศาสนา การประกอบพิธีทำขวัญนาค มีความเชื่อตั้งแต่ครั้งโบราณถึงสาเหตุที่ต้องจัดพิธีทำขวัญนาคขึ้น เพราะญาติของพ่อนาคที่เดินทางมาจากที่ต่างๆ ไม่สามารถกลับได้จึงต้องอยู่ในงานทั้งคืน ถ้าหากไม่มีพิธีทำขวัญนาคขึ้น มันเงียบเหงา เลยกล่อมทั้งพ่อนาคและญาติของพ่อนาคไปด้วย ในปัจจุบันนี้ยังมีการสืบทอดประเพณีการทำขวัญนาคอยู่ แต่มีสิ่งเปลี่ยนแปลงไปบ้างคือใช้เวลาในการประกอบพิธีสั้นลง มีการกล่อมเป็นเพลงลูกทุ่งบ้างเพื่อสนุกสนานแก่ผู้ร่วมประกอบพิธี
อัตลักษณ์ที่โดเด่น คือบทร้องแหล่ที่ใช้ประกอบพิธีทำขวัญนาคมักจะใช้กลอนสัมผัสที่เรียกว่า"กลอนแปด” ฟังสบาย ๆ มีความไพเราะเสนาะหูในอักขวิธีอยู่มาก บทร้องที่นำเอามาใช้จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ 1.บทแหล่ใน หมายถึงบทร้องแหล่ที่เกี่ยวข้องอยู่ในพิธีทำขวัญ เช่น บทแหล่ปฏิสนธิ บทร้องแหล่ลำดับเดือน บทร้องแหล่แม่แพ้ท้อง บทร้องแหล่แม่เจ็บท้อง บทร้องแหล่สอนนาค ฯลฯ ซึ่งผมได้นำเอามาลงไว้ในบล็อกทำขวัญนาคในตอนที่ผ่านมาบ้างแล้ว2.บทแหล่นอก หมายถึงบทร้องแหล่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพระพุทธศาสนา แต่ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของการทำขวัญนาค เป็นบทร้องแหล่ที่ฟังแล้วเกิดความคิดดี มีสติ เป็นประโยชน์ต่อผู้ฟัง ได้แก่ แหล่เผยม่านทอง แหล่สุวรรณสาม แหล่สี่กษัตริย์เดินดง แหล่มัทรีสลบ แหล่แกะบายศรี แหล่ลา แหล่สำเภาทอง แหล่บุญ-บาป ฯลฯ ซึ่งในบางตอนผมได้นำเอามาลงไว้ในบล็อกทำขวัญนาคแล้ว ทำนองเพลงแหล่หรือร้องแหล่ มีมาคู่กับพิธีการทำขวัญนาคมานาน หมอทำขวัญรุ่นเก่า ๆ ที่มีอายุ 80 ปี ขึ้นไปจะมีวิธีการร้องแหล่ผสมกับเสียงเอื้อนเอ่ยคละเคล้าไปกับการร้องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในของแต่ละท่านก็มีความไพเราะเสนาะหูน่าฟังอยู่ในทำนองแหล่ที่ท่านร้อง หมอทำขวัญแต่ละท่านก็จะร้องทำนองเพลงแหล่ที่ไม่เหมือนกัน เพียงแต่แสดงรูปแบบของการร้องที่พอจะบอกได้ว่า เรากำลังฟังเพลงแหล่ โดยเฉพาะลูกเอื้อนเอ่ยที่มีความแตกต่างกันไปตามความถนัด
ความสำคัญของการทำขวัญนาค คือ มีความเชื่อกันว่าขวัญของพ่อนาคจะไปเที่ยวที่ไกลๆ จึงจำเป็นต้องทำพิธีเรียกขวัญให้มาอยู่กับเนื้อกับตัวของพ่อนาค เป็นประเพณีที่ทำติดต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณผู้ประกอบพิธีคือ หมอทำขวัญ ผู้ร่วมพิธีคือ พ่อนาค บิดา มารดา ญาติ และเพื่อนของพ่อนาค สถานที่จัดแล้วแต่เจ้าภาพจะเห็นสมควร บางทีประกอบพิธีที่บ้าน บางที่ประกอบพิธีที่วัด แต่โดยส่วนมากจะประกอบพิธีที่วัด ค่าใช่จ่ายในการประกอบพิธี หมอทำขวัญจะเรียกค่ากำนันเป็นจำนวนเงิน 6 บาท
สาระของการประกอบพิธีทำขวัญนาคส่วนใหญ่จะเป็นการสอนนาคถึงบุญคุณบิดามารดาการเตรียมตัวเป็นสาวกที่ดีของพระศาสนา การประกอบพิธีทำขวัญนาค มีความเชื่อตั้งแต่ครั้งโบราณถึงสาเหตุที่ต้องจัดพิธีทำขวัญนาคขึ้น เพราะญาติของพ่อนาคที่เดินทางมาจากที่ต่างๆ ไม่สามารถกลับได้จึงต้องอยู่ในงานทั้งคืน ถ้าหากไม่มีพิธีทำขวัญนาคขึ้น มันเงียบเหงา เลยกล่อมทั้งพ่อนาคและญาติของพ่อนาคไปด้วย ในปัจจุบันนี้ยังมีการสืบทอดประเพณีการทำขวัญนาคอยู่ แต่มีสิ่งเปลี่ยนแปลงไปบ้างคือใช้เวลาในการประกอบพิธีสั้นลง มีการกล่อมเป็นเพลงลูกทุ่งบ้างเพื่อสนุกสนานแก่ผู้ร่วมประกอบพิธี
อัตลักษณ์ที่โดเด่น คือบทร้องแหล่ที่ใช้ประกอบพิธีทำขวัญนาคมักจะใช้กลอนสัมผัสที่เรียกว่า"กลอนแปด” ฟังสบาย ๆ มีความไพเราะเสนาะหูในอักขวิธีอยู่มาก บทร้องที่นำเอามาใช้จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ 1.บทแหล่ใน หมายถึงบทร้องแหล่ที่เกี่ยวข้องอยู่ในพิธีทำขวัญ เช่น บทแหล่ปฏิสนธิ บทร้องแหล่ลำดับเดือน บทร้องแหล่แม่แพ้ท้อง บทร้องแหล่แม่เจ็บท้อง บทร้องแหล่สอนนาค ฯลฯ ซึ่งผมได้นำเอามาลงไว้ในบล็อกทำขวัญนาคในตอนที่ผ่านมาบ้างแล้ว2.บทแหล่นอก หมายถึงบทร้องแหล่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพระพุทธศาสนา แต่ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของการทำขวัญนาค เป็นบทร้องแหล่ที่ฟังแล้วเกิดความคิดดี มีสติ เป็นประโยชน์ต่อผู้ฟัง ได้แก่ แหล่เผยม่านทอง แหล่สุวรรณสาม แหล่สี่กษัตริย์เดินดง แหล่มัทรีสลบ แหล่แกะบายศรี แหล่ลา แหล่สำเภาทอง แหล่บุญ-บาป ฯลฯ ซึ่งในบางตอนผมได้นำเอามาลงไว้ในบล็อกทำขวัญนาคแล้ว ทำนองเพลงแหล่หรือร้องแหล่ มีมาคู่กับพิธีการทำขวัญนาคมานาน หมอทำขวัญรุ่นเก่า ๆ ที่มีอายุ 80 ปี ขึ้นไปจะมีวิธีการร้องแหล่ผสมกับเสียงเอื้อนเอ่ยคละเคล้าไปกับการร้องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในของแต่ละท่านก็มีความไพเราะเสนาะหูน่าฟังอยู่ในทำนองแหล่ที่ท่านร้อง หมอทำขวัญแต่ละท่านก็จะร้องทำนองเพลงแหล่ที่ไม่เหมือนกัน เพียงแต่แสดงรูปแบบของการร้องที่พอจะบอกได้ว่า เรากำลังฟังเพลงแหล่ โดยเฉพาะลูกเอื้อนเอ่ยที่มีความแตกต่างกันไปตามความถนัด
ความสำคัญของการทำขวัญนาค คือ มีความเชื่อกันว่าขวัญของพ่อนาคจะไปเที่ยวที่ไกลๆ จึงจำเป็นต้องทำพิธีเรียกขวัญให้มาอยู่กับเนื้อกับตัวของพ่อนาค เป็นประเพณีที่ทำติดต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณผู้ประกอบพิธีคือ หมอทำขวัญ ผู้ร่วมพิธีคือ พ่อนาค บิดา มารดา ญาติ และเพื่อนของพ่อนาค สถานที่จัดแล้วแต่เจ้าภาพจะเห็นสมควร บางทีประกอบพิธีที่บ้าน บางที่ประกอบพิธีที่วัด แต่โดยส่วนมากจะประกอบพิธีที่วัด ค่าใช่จ่ายในการประกอบพิธี หมอทำขวัญจะเรียกค่ากำนันเป็นจำนวนเงิน 6 บาท
สิ่งที่ต้องใช้ในการ ประกอบพิธี มีดังนี้ ดอกไม้ ธูปเทียน กล้วยน้ำว้า ไข่ต้ม ขนมต้มแดงต้มขาว บายศรี เทียนขาว หรือเทียนขี้ผึ้ง ผ้าหุ้มบายศรี ขันน้ำมนต์ มะพร้าวอ่อน สำรับคาวหวาน แป้งเจิม ใบพลู แว่นเทียน ข้าว ผลไม้ ใบตองสด 3 ยอด ไม้ซีก 3 ซีก ไว้ผูกบายศรี ขั้นตอนการประกอบพิธีกรรม ขั้นตอนแรกหมอ ทำขวัญจะกล่าวทักทายและแนะนำตัว พูดกล่าวถึงเรื่องจะใช้เวลาในการทำขวัญนาคพอสมควร และบอกขั้นตอนก่อนที่จะสาธิต ต่อจากนั้นทำพิธีชุมนุมเทวดาก่อน เมื่อชุมนุมเทวดาเสร็จแล้ว จะทำการร้องรับเทวดา เสร็จแล้วจะกล่าวตั้งนะโมเคารพคุณ ต่อจากนั้นจะร้องเคารพครูเพื่อแสดงว่าเทวดาอยู่ในพิธีพร้อมแล้ว ชื่อเพลงที่จะใช้ประจำคือ เพลงครอบครัวจักรวาล (ชื่อเพลงมงคล) ต่อจากนั้นร้องเพลงเทวาประสิทธิ์เพื่อแสดงว่าทั้งพระรัตนตรัยและเทวดามาประสิทธิ์ประสาทพร เสร็จแล้วก็กล่าวปฏิสนธิ การคลอดโดยให้ขวัญยืนร้องทำนองเพลงใช้ตามความเหมาะสมของดนตรีที่รับต่อไปเป็นการร้องกล่อม สอนนาค เรียกขวัญเวียนเทียน เป็นขั้นตอนสุดท้าย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น